บริการฝาสูบและแผ่นลิ้น

ชิ้นส่วนที่ต้องการ : ชุดแผ่นลิ้น
ชุดแผ่นลิ้นประกอบไปด้วย แผ่นลิ้น ลิ้นทางส่ง ลิ้นทางดูด ชึดบังคับลิ้น (Retainer Ports) ปะเก็นฝาสูบ ปะเก็นเซอร์วิสวาวล์
ลำดับขั้นการปฏิบัติ
1. ถอดสกรูยึดตัวเซอร์วิสวาวล์ซึ่งยึดอยู่บนฝาสูบ สกรูทั้ง 4 ตัวนี้ถ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่ายาวกว่าตัวอื่นๆ
2. ถอดสกรูที่ยึดฝาสูบและแผ่นลิ้นออกเพื่อนำเอาฝาสูบและแผ่นลิ้นออกจากตัวเรือนคอมเพรสเซอร์ เมื่อคลายสกรูยึดฝาสูบและแผ่นลิ้นแล้วให้ใช้ไขควงปากแบนค่อยๆ แงะ หรือใช้ค้อนเคาะเบาๆ บนไขควงอีกทีเพื่อให้ฝาสูบเคลื่อนที่
ข้อควรระวัง การใช้ไขควงแงะฝาสูบต้องใช้ความระมัดระวังและอย่าใจร้อน เพราะฝาสูบทำด้วยอลูมิเนียม หากใช้แรงเคาะหรือแงะแรงเกินไปอาจทำให้ฝาสูบคดหรืออาจทำให้ฝาสูบแตก การแงะให้ใช้ไขควงหรือค้อนเคาะเฉพาะที่โรงงานผู้ผลิตทำไว้สำหรับให้เคาะโดยเฉพาะเท่านั้น โดยมากจะทำเป็นติ่งยื่นออกมาเป็นพิเศษหรือทำเป็นรอยบาก เข้าไปในตัวเรือนคอมเพรสเซอร์ (Valve Plate Ears) ให้ใช้ความสังเกตให้ดี
3. ถอดปะเก็นออกจากฝาสูบคอมเพรสเซอร์และใช้ใบมีดขูดเศษปะเก็นที่ติดค้างอยู่ออกให้หมด ขณะใช้ใบมีดขูดให้ระวังอย่าขูดแรงจนเกินไปเพราะใบมีดจะขูดเอาเนื้ออลูมิเนียมออกมาด้วยทำให้หน้าสัมผัสฝาสูบกับเรือนสูบไม่เรียบ
4. ห้ามทำการถอดแยกลิ้นที่แผ่นลิ้น (Valve Plate) โดยเด็ดขาด
5. เมื่อล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนแล้วให้ใช้น้ำมันหล่อลื่นของระบบเครื่องเย็นชะโลมปะเก็นและหน้าสัมผัสฝาสูบ แผ่นลิ้นและตัวเรือนคอมเพรสเซอร์
6. ใส่ปะเก็นแผ่นลิ้นลงบนเรือนคอมเพรสเซอร์ ดูรูสลัก (Dowel) ให้ตรงกับรูที่ปะเก็นด้วยเพราะถ้าหากไม่ตรงรูสลักและปะเก็นจะฉีกขาดทำให้เกิดรอยรั่วขึ้นอีกได้
7. ใส่แผ่นลิ้นลงบนปะเก็นที่วางไว้แล้ว ขณะใส่ให้สังเกตดูลิ้นส่ง (Discharge Valve) ให้หน้าลิ้นหงายขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงลูกสูบกระแทกเมื่อลูกสูบเลื่อนขึ้น
8. ใส่ปะเก็นอีกชิ้นลงบนแผ่นลิ้นโดยสวมให้ตรงกับรูสลัก
9. สวมฝาสูบเข้ากับเรือนสูบ ขณะใส่ฝาสูบให้ระวังปะเก็นด้วยโดยจัดปะเก็นให้เข้าที่ให้เรียบร้อย
10. ขันสกรูยึดฝาสูบ แผ่นลิ้น และปะเก็นด้วยมือ
11. ใส่ท่อทางออก และกรองละเอียดพิเศษที่ด้าน Suction ให้เข้าที่เดิม
12. ใส่ปะเก็นเซอร์วิสวาวล์และติดตั้งลิ้นเซอร์วิส ขันสกรูยึดเซอร์วิสวาวล์ให้แน่น
13. ขันฝาสูบปะเก็นเซอร์วิสวาวล์ด้วยแรง 14-18 ฟุต/ปอนด์
14. การยึดสกรูที่คอมเพรสเซอร์ให้ยึดหลักดังนี้
ก. ขันสกรูยึดเซอร์วิสวาวล์
ข. หลังจากนั้นจึงหันมาขันสกรูยึดฝาสูบ โดยยึดหลักขันสกรูตรงข้ามแล้วหมุนเวียนจนครบ
ค. หลังจากขันสกรูแน่นและหลังจากซ่อมเสร็จให้ขันกวดซ้ำอีกครั้ง
การบริการลูกสูบและก้านสูบ
ชิ้นส่วนที่ต้องการ : ชุดลูกสูบและก้านสูบพร้อมฝาครอบก้านสูบ 1 ชุด ปะเก็น 1 ชุด น้ำมันหล่อลื่น


ภาพที่ 25-1 แสดงชื่อชิ้นส่วนของลูกสูบและก้านสูบ
ลำดับขั้นการปฏิบัติ
1. ถอดฝาสูบและชุดแผ่นลิ้น
2. ถ่ายน้ำมันหล่อลื่นและเปิดฝาใต้คอมเพรสเซอร์ (ห้องเพลาข้อเหวี่ยง)
3. ถอดก้านสูบและลูกสูบออก ถ้าหากว่ายังคิดที่จะใช้ลูกสูบครั้งต่อไปอีกให้ทำเครื่องหมายระหว่างลูกสูบและก้านสูบกับฝาครอบก้านสูบ เพราะเมื่อประกอบจะได้เข้าคู่เดิมและประกอบได้รวดเร็ว
4. ทำความสะอาดชิ้นส่วนทุกชิ้นที่ถอดออกมาตรวจดูสภาพที่สึกหรอหรือชำรึดถ้าพบว่าชำรึดมากให้เปลี่ยนใหม่
5. ประกอบชิ้นส่วนใหม่ที่ซ่อมหรือเปลี่ยนแล้วเข้าที่เดิมโดยประกอบจากด้านบนลงมาหาด้านล่าง
6. ประกอบก้านสูบพร้อมกับกวดนัทขันฝาครอบก้านสูบด้วยแรง 90-100 นิ้ว-ปอนด์
7. เปลี่ยนฝาปิดด้านใต้คอมเพรสเซอร์ (ฝาปิดห้องแคร้ง) ถ้าหากร้าวหรือแตกและเปลี่ยนปะเก็นทุกครั้งที่เปิดฝาปิดออก ใส่ปะเก็นและเปิดฝาและขันสกรูยึดด้วยแรง 11 -14 ฟุต-ปอนค์
8. เปลี่ยนแผ่นลิ้นและฝาสูบ ดำเนินการตามลำดับขั้นในหัวข้อเรื่องการบริการฝาสูบและแผ่นลิ้น
9. เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น เติมให้ได้ระดับตามที่กำหนดไว้ในคู่มือ
การบริการเพลาข้อเหวี่ยงและเมนแบริ่ง
ชิ้นส่วนที่ต้องการ : เพลาข้อเหวี่ยง เมนแบริ่งหรือแบริ่งด้านหลังชุดปะเก็น น้ำมันหล่อลื่น ชุดซีล เมนแบริ่งด้านหน้าและแบริ่งชุดนี้จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อลูกปืนแตกหรือมีการเปลี่ยนเพลาข้อเหวี่ยงส่วนแบริ่งอีกด้านหลังสุดมีลักษณะเป็นแบ:ริ่งลูกปืนกลมฝังอยู่ในฝาผนังของเรือนคอมเพรสเซอร์ เรือนแบริ่งด้านในเป็นที่สำหรับรองรับเพลาข้อเหวี่ยงของคอมเพรสเซอร์ เมื่อทำการเปลี่ยนเพลาข้อเหวี่ยงใหม่ ควรเปลี่ยนแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงด้วย
ลำดับขั้นการปฏิบัติ
1. ถ่ายน้ำมันหล่อลื่น และเปิดฝาปิดด้านใต้คอมเพรสเซอร์
2. ทำเครื่องหมายระหว่างผฝาครอบก้านสูบและก้านสูบกับแก้มเพลาข้อเหวี่ยง (crankshaft Throw)
3. ถอดซีลเพลาหน้าและเรือนลูกปืนด้านหลัง
4. ถอดฝาสูบและแผ่นลิ้น ถอดลูกสูบและก้านสูบ
5. นำชิ้นส่วนที่ถอดออกมาไปล้างให้สะอาดและเป่าลมให้แห้ง
6. อบเพลาและเรือนแบริ่งด้านหลังที่อุณหภูมิประมาณ 300°ฟ (149 °C)
7. ณ.ที่อุณหภูมิ 300 °ฟ นี้สามารถถอดเพลาและลูกปืนออกจากเรือนแบริ่งด้วยแรงเพียงเล็กน้อย ในการอบระวังอย่าใช้อุณหภูมิสูงเกินไปเพราะจะทำให้เรือนแบริ่งแตก
8. ถ้าหากว่าใช้เพลาข้อเหวี่ยงเก่า ให้ถอดแบริ่งออกแล้วใส่แบริ่งใหม่แทนแต่ถ้าเปลี่ยนเพลาใหม่ให้เปลี่ยนทั้งชุด
9. ใส่แบริ่งชุดใหม่ลงบนเพลาข้อเหวี่ยง
10. อบเรือนสูบที่อุณหภูมิ 300 °ฟ ใส่เพลาข้อเหวี่ยงและชุดแบริ่งเข้าในบ่ารองรับ ณ ที่เดิม
11. แบริ่งที่ใส่ใหม่ จะต้องนั่งบนบ่ารองรับด้านในเรือนสูบด้วยหน้าสัมผัสที่สนิทเสมอกันเต็มหน้า


ภาพที่ 25-2 ภาพภาคตัดแสดงการติดตั้งแบริ่ง
12. เปลี่ยน O-Ring ที่แบริ่งด้านหลังแล้วขันปิดฝาด้านหลังคอมเพรสเซอร์ด้วยแรง 7-10 ฟุต-ปอนด์
13. จัดลูกสูบให้เข้าที่เดิมเปลี่ยนฝาครอบก้านสูบแล้วขันด้วยแรง90-100 นิ้วปอนด์
14. เปลี่ยนซีลเพลาหน้า และฝาปิดด้านใต้คอมเพรสเซอร์ ใส่ชุดแผ่นลิ้น และฝาสูบโดยกระทำย้อนวิธีการที่กล่าวมาแล้ว
ปั๊มนํ้ามันหล่อลื่น
ชิ้นส่วนที่ต้องการ : ชุดปั๊มน้ำมันหล่อลื่น
ชุดปั๊มน้ำมันหล่อลื่นประกอบไปด้วย เรือนปั๊ม เฟืองขับ แหวนรองและ O-Ring ปั๊มน้ำมันหล่อลื่นอยู่ด้านหลังคอมเพรสเซอร์